Archive
สนามบินนาริตะ (Narita Airport)
สนามบินนาริตะอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 60 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-60 นาที วิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุดก็ต้องรถไฟนี่แหละ ซึ่งมีบริการ 2 เจ้าใหญ่ๆ คุณสามารเลือกได้ว่าต้องการลงที่สถานีใดก็เลือกใช้บริการของสายรถไฟนั้นให้เหมาะกับทริปและตำแหน่งที่พักของคุณ เช่น ถ้าจะลงที่อุเอโนะก็ใช้ของ Skyliner จะประหยัดดี ถ้าจะลง Shinjuku หรือ Shibuya ก็ใช้ N’ex จะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าต่อรถ 1 รถไฟของนาริตะเอ็กซ์เพรส (หรือ N’ex -เส้นสีแดง) ไปกลับสถานีหลัก (เส้นสีแดง) ราคาประมาณ 4,000
เจดีย์ 5 ชั้น (Chureito Pagoda)
เจดีย์แดง 5 ชั้น ที่เป็นจุดยอดนิยมในการถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิ นั่งรถไฟสาย Fujikyu railway จากสถานี Kawakuchiko มา 2 สถานี ลงที่สถานี Shimoyoshida (ค่าโดยสาร 290 เยน) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 25 นาที แผนที่เดินทางจากสถานีชิโมโยชิดะไปเจดีย์แดง 5 ชั้น
นาคะเมกุโร่ (Nakameguro)
ย่านสุดน่ารักที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหารสุดเก๋ ร้านเสื้อผ้าที่จะแตกต่างจากย่านช้อปปิ้งทั่วไปในญี่ปุ่นเพราะสินค้าทีนี่จะเน้นไอเดีย
คิจิโจจิ (Kichijoji)
Kichijoji ย่านช้อปปิ้งสุดเก๋ และสวนสวย จากสถานีชิบุย่าคุณสามารถนั่งรถไฟมายังสถานี Kichijoji เพียง 6 ป้ายเท่านั้น ที่นี่มีร้านน่ารักมากมาย ทั้งร้านเสื้อผ้าของสาวๆ ร้านกระจุกกระจิก ของตกแต่งบ้านของที่ระลึก เครื่องเขียน รวมไปถึงร้านอาหารสุดอร่อย และที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่คือสวนสาธารณะ Inokashira ที่กว้างวาง เหมาะกับการมาเดินเล่น ปั่นจักรยาน พายเรือ ยิ่งในช่วงซากุระบานที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่ชมซากุระได้สวยงามมาก และจากสวย Inokashira คุณสามารถเดินไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จิบลิ พิพิธภัณฑ์การ์ตูนของสตูดิโอจิบลิผู้สร้างภาพยนตร์การ์ตูนมากมาย อาทิ My Neighbor Totoro, Spirited away ที่น่ารักและเป็นจุดหมาย
ไดคันยาม่า (Daikanyama)
ถ้าคุณเบื่อความวุ่นวายของชิบุย่า เราขอแนะนำให้คุณนั่งรถไฟมาเพียง 1 สถานีจากชิบุย่า คุณก็จะพบกับย่านช้อปปิ้งน่ารักที่สงบ เต็มไปด้วยร้านเก๋ไก๋ คาเฟ่น่านั่ง รูปจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Daikanyamach%C5%8D,_Shibuya ภาพจาก http://tsite.jp/daikanyama/store-service/tsite-en.html รวมถึงห้างสรรพสินค้าที่ชื่อ DAIKANYAMA T-SITE ซึ่งตั้งอยู่ใกล้สถานี Daikanyama เพียง 5 นาทีที่เป็นแหล่งรวมร้านสุดเก๋ อาทิ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายอุปกรณ์มือถือ และร้านขายงานแนวสร้างสรรค์มากมาย น่าเดินมากๆ การเดินทาง จากสถานีชิบุย่ามา นั่งรถไฟ Tokyu Toyoko/Minatomirai Line Local เพียง 1 สถานี ก็จะถึงสถานี Daikanyama
จิยูกาโอกะ (Jiyugaoka)
สำหรับสาวๆ ที่ชอบร้านน่ารัก และขนมหวาน เราอยากให้คุณเดินทางมาที่ย่าน Jiyugaoka ย่านสุดน่ารักในโตเกียว เริ่มจากสถานี Jiyugaoka จะมีถนนสายเล็กๆ ที่ชื่อ Jiyu Dori Green Street มีร้านน่ารักมากมายรวมทั้ง Sweet Forest ที่รวมร้านขนมหวาน รวมทั้งอุปกรณ์ในการทำขนมสุดน่ารัก จากสถานีเดินต่อไปคุณจะพบร้านชาสไตล์เกียวโตที่น่านั่งมากๆอยู่ตรงข้ามกับ la vita แหล่งช้อปปิ้งสไตล์เวเนเชี่ยนที่สามารถ ไปถ่ายรูปสวยๆ ได้อีกด้วย การเดินทาง นั่งรถไฟสาย Tokyu Oimachi Line หรือ Tokyu Toyoko/Minatomirai Line Local ไปลงสถานี Jiyugaoka
โคเอนจิ (Koenji)
สำหรับสาว Vintage และคนที่ชอบช้อปปิ้งเสื้อผ้ามือ 2 ของญี่ปุ่น ต้องมาที่ย่านนี้เลยจ้า Koenji ที่มีร้านเสื้อผ้ามือ 2 คุณภาพดี แถมราคายังถูกด้วยมากมาย อย่างเช่นร้าน Fizz ร้านเสื้อผ้าสไตล์ยุค 70 หรือร้าน Under 700 ร้านเสื้อผ้ามือสองที่ราคาไม่เกิน 700 เยน ซึ่งตามนิสัยของคนญี่ปุ่นจะเป็นคนที่ถนอมเสื้อผ้าและของใช้และมักจะเปลี่ยนบ่อย ดังนั้นเสื้อผ้ามือสอง หรือสินค้ามือสองของเขาจึงน่าเลือกซื้อมากๆ การเดินทาง จากสถานีชินจูกุสามารถนั่งรถไฟ JR Chuo/Sobu Line Local Service เพียงสถานีเดียวก็จะถึงสถานี Koenji
เที่ยวญีปุ่น ทริปตะลุยคิวชู 5 วัน 4 คืน ตอนสวัสดียูฟูอิน
คิวชูมีอะไร? ฟุกุโอกะ มีอะไร? คือคำถามที่ฮานะจะต้องเจอ เมื่อบอกคนอื่นว่ากำลังจะไป “ฟุกุโอกะ” แหม ญี่ปุ่นมันไม่ได้มีแค่โตเกียว เกียวโต โอซาก้า ซัปโปโรนะคะ ญี่ปุ่น สำหรับฮานะนั้นสามารถเที่ยวได้ทั่วประเทศกันเลยล่ะค่ะ แต่สาเหตุที่เลือกไปฟุกุโอกะ เพราะตั้งใจจะไปสัมผัสเมืองน่ารักที่ชื่อว่า “ยูฟูอิน” เมืองที่คนไทยหลายคนบอกว่าเป็นปายของญี่ปุ่น ภาพจาก www.awesomestories.com ก่อนจะไปชมรีวิว มาดูกันก่อนว่าคิวชูอยู่ตรงไหนของญี่ปุ่น คิวชูนั้นเป็นเกาะทางใต้ ที่อยู่ตรงส่วนสีเขียวนั่นแล่ะค่ะ หรือเรียกว่าเป็นส่วนหางมังกรซึ่งแผนที่ญี่ปุ่นนั้นจะมีรูปร่างเป็นเหมือนมังกร จุดเด่นของคิวชูคือมีสภาพอากาศที่ อบอุ่นกว่าภูมิภาคอื่นๆของญี่ปุ่นและยังเป็นแหล่งที่มีออนเซ็นธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากมาย และอีกสิ่งหนึ่งที่เป็น เสน่ห์ของคิวชูคือ เส้นทางรถไฟของ JR KYUSHU RAILWAY ซึ่งรถไฟของที่นี่ไม่ได้แข่งเรื่องความเร็ว แต่แข่ง ในเรื่องดีไซน์
ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji)
ทะเลสาบชูเซ็นจิ (Lake Chuzenji) คือทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟนันตาอิ (Mount Nantai) ซึ่งเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของนิกโก้ จึงกลายเป็นทะเลสาบที่มีความงดงามมากๆ ยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี กลางเดือนตุลคม-ปลายเดือนตุลาคม รอบๆ ทะเลสาบจะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากๆ รอบๆ ทะเลสาบยังมีสถานที่ ท่องเที่ยวให้ได้ชมมากมาย อาทิ น้ำตกเคะงน(Kegon Waterfall ) น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองนิกโก้ น้ำตกริวซู (Ryuzu Waterfall) วัดชูเซ็นจิ(Chuzenji Temple) ศาลเจ้าฟูตะระซัน(Futarasan Shrine) และยังมีออนเซ็น Chuzenjiko Onsen ให้ได้ผ่อนคลายอีกด้วย การเดินทาง :
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge) คือสะพานศักดิ์สิทธิ์ เป็นเหมือนกับประตูที่จะพาเข้าสู่ศาลเจ้าต่างๆ ในนิกโก้ สะพานชินเคียวนั้นสร้างในปี 1636 และเป็นหนึ่งใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ความสวยงามของสะพานชินเคียวนั้นจะสวยที่สุดในยามใบไม้เปลี่ยนสี ประมาณปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อใบไม้ต่างๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ส้ม สีเหลือง สลับกันไป แต่งแต้มให้สะพานแห่งนี้งดงามราวกับภาพวาด ค่าเข้า : 300 เยน เปิดบริการ : ตลอดปี เวลา 8.00-17.00 น. (ในเดือนเมษายน-กลางเดือนพฤศจิกายน) /