5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับระบบการศึกษาของญี่ปุ่น

1-34

1. ไม่มีการสอบช่วง 3 ปีแรกในโรงเรียน

ความจริงที่ว่าทำไมเด็กนักเรียนญี่ปุ่นถึงไม่มีการสอบจนกว่าจะถึงเกรด 4 นั่นก็เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นอย่างมาก ดังนั้นตามวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญในการสอนมารยาททางสังคมให้แก่เด็กตั้งแต่ยังเล็กๆ มากกว่าจะมุ่งสนใจไปที่การเรียนในชั้นเรียนหรือสอบวัดความรู้ พวกเขามีความเชื่อว่าลักษณะนิสัยของเด็กๆจำเป็นต้องมีการพัฒนา ดังนั้นจะดีกว่าหากหลีกเลี่ยงการตัดสินเด็กที่ความก้าวหน้าในการเรียนรู้การเคารพผู้อื่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ถูกสอนในห้องเรียน นักเรียนต้องแสดงความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน และแน่นอนว่าต่อคุณครูด้วย โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน ดังนั้นนักเรียนคนไหนที่ไม่อยากทำให้อาจารย์ผิดหวัง ก็จะเชื่อฟัง

2. ไม่ใช้พนักงานทำความสะอาด แต่เป็นนักเรียนเองที่ช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน

นักเรียนญี่ปุ่นต้องทำความสะอาดทุกอย่างเอง พวกเขาทำความสะอาดทั้งห้องเรียนและห้องน้ำ จุดประสงค์ก็เพื่อสอนให้เด็กๆรู้จักการทำงานเป็นทีมและแบ่งหน้าที่ให้รับผิดชอบเท่าๆกัน รวมถึงพัฒนาเรื่องความรับผิดชอบ บางครั้งบทเรียนนี้ก็สามารถสอนได้ว่า การที่เด็กเอาใจใส่สิ่งของรอบข้างแสดงได้ว่าเขาเอาใจใส่คนรอบข้างด้วยเช่นกัน
นักเรียนจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อทำงานที่แตกต่างกัน จากนั้นจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆตลอดปี ดังนั้นเด็กแต่ละคนจะได้ทำงานครบทุกอย่าง

3. นักเรียนทุกคนจะทานอาหารเหมือนกันและเท่ากัน

ไม่นับกรณีนักเรียนที่แพ้อาหารบางอย่าง นอกนั้นนักเรียนญี่ปุ่นทุกคนจะทานอาหารที่มีมาตรฐานเดียวกันหมด ชาวญี่ปุ่นจะสอนให้ลูกของเขาทานอาหารที่มีประโยชน์ตั้งแต่เด็กโดยการจัดลำดับคุณภาพของส่วนประกอบในอาหารและแบ่งสันปันส่วนให้เหมาะสม เมนูอาหารจะมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอาหารและเชฟที่เทรนมาเป็นอย่างดี อีกทั้งอาหารกลางวันที่โรงเรียนส่วนใหญ่จะมาจากวัตถุจากท้องถิ่นที่สดใหม่
ส่วนการที่คุณครูทานอาหารกลางวันร่วมกันกับนักเรียนนั้นจะช่วยคุณครูกับนักเรียนสนิทกันมากขึ้นและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน บ่อยครั้งที่นักเรียนญี่ปุ่นมักจะเสิร์ฟอาหารให้กันและกัน ซึ่งเป็นการกระจายหน้าที่ให้แก่คนทั้งห้อง

4. มีการสอนศิลปะพื้นบ้านในโรงเรียน

สิ่งที่ถูกพิจารณาว่าเป็นความรู้พื้นฐานในโรงเรียนญี่ปุ่นนั้นไปไกลเกินกว่าที่เราคิด นักเรียนญี่ปุ่นจะได้เรียนศิลปะพื้นบ้านดั้งเดิมที่ชื่อว่า โชโดะ(書道) หรือศิลปะการเขียนตัวอักษร และ ไฮกุ(俳句) หรือบทกวีแบบง่ายของญี่ปุ่น โดยโชโดะเป็นการเขียนตัวอักษรคันจิและคานะด้วยพู่กันไม้ไผ่และจุ่มหมึกเขียนลงบนกระดาษที่ทำจากข้าว ซึ่งจะทำให้ผู้เขียนค่อยๆซึมซับวัฒนธรรมดั้งเดิมนี้ ส่วนทักษะการเขียนไฮกุนั้นจะช่วยให้นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้าน

5. นักเรียนญี่ปุ่นใส่ชุดยูนิฟอร์มไปเรียน

ตั้งแต่ชั้นมัธยมต้นเป็นต้นไป นักเรียนทุกคนต้องใส่ยูนิฟอร์มไปเรียน แม้มาตรฐานของแต่ละโรงเรียนจะแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือชุดนักเรียนจะคล้ายชุดทหาร ผู้ชายจะใส่สีดำ ส่วนผู้หญิงจะใส่เสื้อปกทหารเรือกับกระโปรง โดยรูปแบบของชุดและเครื่องแต่งกายจะใช้สีที่สุภาพ เรียบร้อยเหตุผลที่นักเรียนทุกคนต้องใส่ยูนิฟอร์มไปเรียนก็เพราะ เมื่อทุกคนใส่ชุดเหมือนกัน จะให้ความรู้สึกเปรียบเสมือนสังคมที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บางโรงเรียนยังมีข้อบังคับในเรื่องกระเป๋า รองเท้า และทรงผมด้วย

 

ที่มา http://www.lifehack.org/

Share Button
Categories: เกร็ด