ทำอย่างไรไม่ให้ถูกปฏิเสธเข้าประเทศญี่ปุ่น

หลังจากที่มีการเปิดฟรีวีซ่า ทำให้มีคนไทยที่หนีเข้าประเทศญี่ปุ่นมากมาย ตม.ญี่ปุ่นจึงทำการตรวจนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด  ทาง สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นจึงได้โพสต์ข้อความผ่านเฟ้สบุ้คเกี่ยวกับหลักปฏิบัติในการผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศญี่ปุ่นลองชมกันเลย
1. พาสปอร์ตมีอายุมากกว่า 6 เดือน
2. วัตุประสงค์การเข้าเมืองเป็นความจริงเหมาะสม
3. กิจกรรมที่จะเข้ามาดำเนินการในญี่ปุ่นสอดคล้องกับระเบียบ ตม. เช่นวีซ่าท่องเที่ยวก็มาท่องเที่ยวจริงๆ
4. ระยะเวลาที่จะพำนักเป็นไปตามที่ ตม. อนุญาต
5. ไม่เป็นบุคคลที่เคยถูกเนรเทศ หรือเคยมีประวัติอาชญากรรมที่ญี่ปุ่น
แต่อย่างไรก็ดี การตัดสินใจทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับ ตม. ญี่ปุ่น ถ้าหากถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ ทางการญี่ปุ่นเค้าก็มีหลักการดำเนินการส่งตัวผู้ถูกปฏิเสธกลับประเทศไทย เช่น ถ้าเดินทางถึงญี่ปุ่น ช่วงเช้า หลังจากทางการตัดสินปฏิเสธให้เข้าประเทศ และได้เดินทางกลับประเทศไทยในวันเดียวกัน จะมีค่ารักษาความปลอดภัยในขณะที่อยู่ที่ญี่ปุ่น ประมาณ 22,000 เยนต่อคน แต่ถ้าต้องค้างคืนเพื่อรอเที่ยวบินขากลับในวันถัดไปจะมีค่ารักษาความปลอดภัย 33,000 ต่อคน นอกจากนี้ ยังมีค่าโรงแรมซึ่งทางสายการบินที่เรานั่งมาจะเป็นผู้จัดหา ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ ผู้ถูกปฏิเสธให้เข้าญี่ปุ่นต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
จะเห็นได้ว่านอกจากไม่ได้เข้าประเทศแล้วยังต้องเสียค่าใช้จ่ายยุบยับ เสียเวลา แถมยังเสียอารมณ์อีกต่างหาก เพราะฉะนั้น ก่อนจะมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น สถานทูตฯ จึงอยากให้คนไทยเตรียมความพร้อมของเอกสารการเดินทางต่างๆ เช่น เอกสารสำรองห้องพัก, กำหนดการท่องเที่ยว ฯลฯ ให้พร้อมก่อนการเดินทางเข้าญี่ปุ่น ทั้งนี้ การอนุญาตให้เข้าหรือไม่ให้เข้าประเทศอยู่ในดุลพินิจและเป็นอำนาจของ ตม. ญี่ปุ่น สถานทูตฯ ไม่สามารถก้าวก่ายได้”
Share Button
Categories: เกร็ด