รู้หรือไม่ ทำไมโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นถึงไม่จำเป็นต้องมีคนทำความสะอาด?

ในประเทศญี่ปุ่น นักเรียนไม่จำเป็นต้องสอบจนกว่าจะอายุ 10 ขวบ ซึ่งก่อนที่จะถึงตอนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเด็กๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิต คุณครูจะสอนว่าเด็กๆควรจะใช้ชีวิตอย่างไร นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลสัตว์ การเคารพผู้อื่น และเรียนรู้ที่จะเข้าใจธรรมชาติ นักเรียนญี่ปุ่นจะถูกสอนให้เห็นความสำคัญของการรู้จักควบคุมตนเอง สอนให้มีความรับผิดชอบ และมีความยุติธรรม

ทำไมโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นถึงไม่จำเป็นต้องจ้างคนทำความสะอาด?

_mg_8686

จากการเรียนการสอนของชาวญี่ปุ่น ทำให้รู้ว่าเด็กๆจะถูกสอนให้ดูแลรักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อม หากทุกคนช่วยกันดูแลและเคารพในความเป็นพื้นที่ส่วนรวม ทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสิ่งแวดล้อมได้ เชื่อว่าหากเด็กทุกคนมีจิตสำนึกที่ดี พวกเขาก็จะมีความเคารพและความรับผิดชอบ ซึ่งพวกเขาก็จะรู้ว่าการทำความสะอาดนั้นเป็นหน้าที่ของทุกๆคน ดังนั้นเหล่านักเรียนจึงช่วยกันและกันทำความสะอาด

เด็กนักเรียนจะรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเรียน และเมื่อทานอาหารเสร็จ พวกเขาจะทำความสะอาดโต๊ะก่อนจะนำขยะไปทิ้งในโซนรีไซเคิล ซึ่งกล่องนมทุกกล่องจะถูกนำไปรีไซเคิลต่อไป อีกทั้งนักเรียนจะได้ร่วมทานอาหารในห้องเรียนพร้อมกับคุณครู ซึ่งจะทำให้ครูและนักเรียนมีความใกล้ชิดกัน  ในเวลาอาหารกลางวัน แน่นอนว่าจะไม่มีพนักงานดูแลอยู่เลย นักเรียนจะมีหน้าที่นำอาหารไปให้คุณครู เมื่อทานเสร็จก็จะทำความสะอาดหมดจด จนคุณจะไม่รู้เลยว่าพวกเขารับประทานอาหารกันที่นี่!

ไม่เพียงเท่านั้น หลายๆโรงเรียนในญี่ปุ่นยังปลูกผัก ทำอาหารกินเองด้วย และเด็กๆนักเรียนยังได้เรียนรู้ในการทำอาหารที่ง่ายและดีต่อสุขภาพ ซึ่งก็อีกนั่นแหละ นี่ไม่ใช่เพียงเพื่ออาหาร แต่เป็นการสอนเด็กให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ชีวิต  การอยู่ร่วมกันในลักษณะนี้จะเป็นการช่วยให้นักเรียนรู้จักพึ่งพาตนเอง มีความรับผิดชอบ และมีจริยธรรมในการทำงาน

แล้วประโยชน์ที่จะได้ในระยะยาวล่ะ มีอะไรบ้าง?

1_1

อย่างที่เคยกล่าวไปแล้ว การสอนนักเรียนให้รู้จักรับผิดชอบในการทำความสะอาด เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยส่งเสริมและรักษาวัฒนธรรมรักความสะอาด อีกทั้งยังสนับสนุนให้เด็กๆรู้จักเคารพซึ่งกันและกัน พวกเขาถูกสอนให้รักษาความสะอาดในพื้นทีส่วนรวมและรู้จักทำงานเป็นทีมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ในขณะที่ทำความสะอาดอยู่นั้น เด็กๆก็ได้มีโอกาสพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ พวกเขาจึงรู้สึกว่าการทำความสะอาดนั้นไม่ใช่งานที่น่าเบื่อ

โดยแท้จริงแล้ว นี่ไม่ใช่เพียงกิจกรรมในการทำความสะอาด มันไม่ได้เกี่ยวกับการกระทำเลย แต่เป็นความหมายที่ซ่อนอยู่ในการกระทำนี้ตะหาก โดยนักเรียนทุกคนจะยึดหลักปฏิบัติแบบเดียวกัน หากบอกให้นักเรียนระบายสีห้องเรียนหรือตัดหญ้าในสนาม เด็กๆก็จะทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยจะช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนจะไม่มีวันลืมนิสัยดีๆแบบนี้ การทำความสะอาดจึงเป็นงานหนึ่งที่เด็กๆจะทำจนติดเป็นนิสัย

Michael Auslin อดีตอาจารย์ที่เคยสอนในประเทศญี่ปุ่น กล่าวในสำนักข่าววิทยุ NPR ว่า “โรงเรียนไม่ใช่ที่ที่มีไว้เรียนรู้จากตำราเพียงอย่างเดียว แต่ยังสอนให้เด็กๆได้เรียนรู้การเป็นสมาชิกในสังคมและรู้จักรับผิดชอบตนเอง” จุดประสงค์ของโรงเรียนคือการให้ความรู้แก่เด็กในทุกๆด้าน ไม่ใช่แค่เรียนรู้จากหนังสือ พวกเขาสอนเด็กให้ใช้ชีวิต ซึ่งในอนาคตจะไม่มีใครมาคอยดูแลพวกเขา ดังนั้นเด็กๆจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนนี้

สิ่งที่ผู้ใหญ่เรียนรู้ได้จากเรื่องนี้คืออะไร?

เด็กๆจำเป็นต้องได้รับการศึกษา ซึ่งการศึกษาที่ว่า ไม่ใช่เพียงแต่พัฒนาความรู้เท่านั้น แต่รวมไปถึงการสอนให้เขาเป็นคนดี เป็นคนที่คิดถึงผู้อื่นและคิดถึงธรรมชาติ ดังนั้นช่วงเวลาที่โรงเรียนจึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดในชีวิตของเด็ก ที่ซึ่งโรงเรียนเป็นสถานที่ที่ได้เรียนรู้ทักษะและประสบการณ์ใหม่ๆ ดังนั้นเราจึงควรทำให้ประสบการณ์นั้นๆเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆ

ในฐานะผู้ปกครอง เราควรใช้เวลาสักนิดคิดถึงวิธีการที่ว่ามานี้ ว่าจะนำมาปรับใช้กับลูกๆของเราอย่างไรได้บ้าง เราต้องเข้าใจว่า เด็กๆนั้นต้องมีความเคารพ ความรับผิดชอบ และมีความยุติธรรม มันไม่มีประโยชน์เลย หากมุ่งพัฒนาแต่ความรู้ ไม่ใส่ใจถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมของมนุษย์ ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ได้อยากให้ลูกเราทำความสะอาดหรอก แต่เราอยากให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเอง จำไว้ว่ามันไม่ใช่เพื่อการกระทำ แต่เป็นผลของการกระทำนั้นตะหากที่สำคัญที่สุด

ที่มา http://www.lifehack.org/

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Share Button
Categories: เกร็ด